Tuesday, October 9, 2018

ทำไมถึงจำวันสำคัญทางศาสนาไม่ได้สักที???มีคำตอบ

อยากรู้ใช่มั้ยล่ะครับว่าทำไมเราถึงยังจำวันสำคัญในทางพระพุทธศาสนาไม่ค่อยได้หรือได้แต่ก็ยังไม่แน่ใจจำสลับกันบ้าง

เรามีเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณผู้อ่านได้จำกันง่ายขึ้นและเข้าใจที่มาที่ไปด้วยครับ


ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่จุดเริ่มต้นของพุทธศาสนาเรากันก่อนนะครับ
วิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 


อันดับแรก ก็คือ วันประสูติ วันตรัสรู้ วันปรินิพพาน 3 วันนี้เป็นวันเดียวกันทั้งหมด
ซึ่งมีเฉพาะผู้ที่มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นนะครับ ซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน 6 เรียกว่า วิสาขะ
ดังนั้นเราจึงเรียกวันวิสาขะบูชา ว่าเป็น วันวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ยังไงล่ะครับ
(หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมเป็นวันวิสาขะ เดือน 6 ทำไมไม่เป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นเดือน 3 ต้องมาก่อนซิ ก็เพราะว่าถ้าไม่มีการตรัสรู้ หรือ ประสูติแล้ว อีก 2 วันที่เหลือก็จะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาดครับ)

หลังจากที่เจ้าชายสิทธัทถะประสูติ ท่านก็ได้แสวงหาสัจจะธรรมเพื่อการหลุดพ้นไม่ต้องมาเวียนว่ายตาย
เกิดอีก ท่านทรงออกผนวชเมื่อวัย 29 พรรษา ใช่เวลาในการบำเพ็ญเพียรนานอยู่ถึง 6 ปี ( เป็นเวลาตรัสรู้
ที่ยาวนานกว่าพระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆมากนัก เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงงว่ามีพระพุทธเจ้าองค์อื่นอีกหรือ วันหลังจะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อๆไปนะครับ ) ในที่สุดท่านก็ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนี้เอง

เอาล่ะครับมาถึงตรงนี้ก็คงพอจะเข้าใจกันบ้างแล้วว่าให้นับวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญวันแรกในพระพุทธศาสนา
พอจะเดาวันลำดับที่สองกันได้บ้างมั้ยครับ  ก็คือวัน....


ใช่แล้วครับ เห็นปัญจวัคคีย์แล้วก็พอจะเดากันออกใช่มั้ยครับ
วันอาสาฬหบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
หลังจากที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ 49 วัน ( 7 สัปดาห์ ) พระองค์ทรงพิจารณาแล้วว่าธรรมะที่ตนได้มานั้นลึกซึ้งน้อยคนที่จะเข้าใจและบรรลุธรรมได้เช่นเรา พระองค์จึงถอดใจที่จะไม่แสดงธรรม แต่พระอินทร์ที่คอยเฝ้าดูแลอยู่ก็ได้ทูลขอให้ท่านเห็นทางที่จะแสดงธรรมแก่ผู้คน ดั่งบัว 4 เหล่า คน 4 ระดับ ก็มีปัญญาในการรับฟังธรรมะขอท่านและสามารถบรรลุธรรมได้เช่นกัน พอท่านได้พิจารณาตามนั้นก็ทรงเปล่งวาจาว่าเราจะไปโปรดสัตว์ให้ได้บรรลุธรรม จึงเลือกเดินทางไปหาปัญจวัคคีย์ก่อน เพราะท่านทั้ง 5 คนนี้เคยปฎิบัติธรรมกันมาอย่างยาวนานน่าจะเข้าใจในธรรมะที่เราจะแสดง เมื่อท่านทั้่ง 5 ได้ฟังธรรมกันแล้วมีเพียงคนเดียวที่บรรลุธรรมขั้นต้นเป็นพระโสดาบันก็คือ ท่านอัญญาโกณฑัณญะ เป็นพระภิกษุสงฆ์องค์แรกของโลก จนวันที่ 2 วันที่ 3 วันที่ 4 วันที่ 5 แต่ละคนก็บรรลุธรรมตามๆกันมา แต่ในวันที่ 5 นี้เองที่ท่านอัญญาโกณฑัณญะได้บรรลุธรรมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้บรรลุธรรมเป็นพระอรหัตน์เลยทีเดียว 

ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรกก็คือ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร ที่เราๆเคยสวดกันนั่นเอง


วันอาสาฬหบูชา จึงเป็นวันครบองค์สาม ก็คือ 
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์  นั่นเอง กงล้อธรรมได้หมุนแล้วในวันนี้
และเป็นวันประกาศศาสนาอีกด้วย
เมื่อพระพุทธเจ้าได้ประกาศศาสนาแล้ว จึงให้พระปัญจวัคคีย์ออกเดินทางไปตามทิศต่างๆเพื่อออกเผยแผ่ศาสนา และในครั้งนี้เองที่ลูกศิษย์องค์สุดท้ายที่บรรลุเป็นพระอรหัตน์คือพระอัสสชิ ได้ออกบิณฑบาตรได้ไปพบหนุ่มน้อยคนนึงมีนามว่า อุปติสสะ ตอนนั้นหนุ่มน้อยได้สังเกตเห็นพระอัสสชิ มีกิริยาที่น่าเลื่อมใสจึงได้รอให้ท่านฉันอาหารให้เรียบร้อยก่อนจึงเข้าไปสนทนา เมื่อได้สอบถามธรรมที่สงสัยแล้วจึงวิ่งกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อไปบอกเพื่อนรักอีกคน ชือ โกลิตะ ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน และได้บอกกล่าวกันไว้ว่าถ้าหากใครได้เจอธรรมะที่ดีให้รีบมาบอกกันและกันด้วย ตอนนั้น อุปติสสะ ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันเรียบร้อยแล้ว พอเอาธรรมที่ได้ฟังมาไปเล่าให้ โกลิตะ ฟังก็บรรลุโสดาบันอีกคน ทั้งสองจึงได้ชื่อใหม่คือ อุปติสสะเป็นพระสารีบุตร ส่วนโกลิตะเป็นพระโมคคัลลานะ นั่นเอง

เป็นยังไงล่ะครับท่านผู้อ่าน เริ่มมีลูกศิษย์มากขึ้นแล้วเห็นมั้ย คราวนี้ทั้งสององค์นี้ก็เป็นกำลังหลักในการเผยแผ่ต่อไปด้วยแล้วก็รวบรวมลูกศิษย์จากทั่วสารทิศเลยทีเดียว


จนไปถึงเดือน 3 ของปีถัดไป ก็มาตรงกับวันครูของชาวอินเดีย
วันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำเดือน 3


ในวันนี้เองที่มีลูกศิษย์สาวกมาประชุมพร้อมกันนับแล้วได้ 1,250 รูปพอดีเป๊ะ (มีใครกันบ้างเดี๋ยวเอาไว้อธิบายในหัวข้อต่อๆไปนะครับ) นับจากเดือน 8 จนถึงเดือน 3 ของอีกปีใช้เวลาทั้งสิ้น 7 เดือนในการเผยแผ่ศาสนา ในสมัยนั้นนับว่ายากลำบากมากเลยทีเดียว เพราะมีศาสนาพราหมณ์อยู่ก่อนแล้วอีกทั้งการเดินทางที่ไม่สะดวกสบาย internet ก็ไม่มี โอ้ววว มีอุปสรรคมากมาย แต่ก็ยังได้ผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ตั้ง 1,250 รูปซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเลยทีเดียว แต่ขอโทษทีทั้งหมดที่มากันเนี่ยไม่ได้นัดหมายกันด้วยนะครับ เดินทางมาจากทุกสารทิศแล้วมาหยุดต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้าตามที่เห็นในรูปเลย
พระพุทธองค์จึงให้โอวาทแด่พระอรหันต์ทั้งหมดว่า

จงละชั่ว ทำแต่ความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส


เป็นเหมือนกฏบัญญัติ 3 ข้อของภิกษุในช่วงต้นๆของศาสนาก็ว่าได้
สรุปวันมาฆบูชามีใจความสำคัญคือ

เป็นวันที่พระสงฆ์มาประชุมพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วก็เป็นพระอรหัตน์ที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้ทั้งหมดด้วยนะ ซึ่งทั้งหมดมี 1,250 รูป และพระพุทธเจ้าให้โอวาทไว้ 3 ข้อดังที่กล่าวไปแล้ว


เอาล่ะครับมาถึงตรงนี้แล้วพอจะจัดลำดับความสำคัญกันได้แล้วใช่มั้ย

ตรัสรู้ วิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6
ประกาศศาสนา มีลูกศิษย์ 5 คน อาสาฬหบูชา ขี้น 15 ค่ำ เดือน 8
ลูกศิษย์1,250 คนมาประชุมกัน มาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3

ทำความเข้าใจแบบนี้ไม่ลืมแน่นอนครับ

1 comment: