Monday, October 15, 2018

เดินเวียนเทียนจะต้องถอดรองเท้าไว้ตรงไหน?

ถึงแม้ว่าเราชาวพุทธจะเข้าร่วมกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเป็นประจำอยู่แล้วแต่มีสิ่งหนึ่งที่เราชาวพุทธมักจะมองข้ามไปก็คือ การถอรองเท้าให้ถูกที่


ทุกๆคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเราคนไทยเข้าไปสถานที่ไหนๆก็มักจะชินกับการถอดรองเท้าไว้ข้างนอกก่อนเข้าไปใช่มั้ยครับ แต่ที่ผมเห็นบ่อยๆเลย คือ มักจะถอดรองเท้าตามๆกัน ใครถอดตรงไหนก่อนก็จะถอดตรงนั้นวางๆตามกันไป โดยไม่รู้ว่าจุดไหนตำแหน่งไหนควรจะต้องถอด ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยกันใช่มั้ยว่าก็ปกติถอดตรงหน้าประตูโบสถ์ประตูวิหารไง แค่ไม่ใส่เข้าไปก็ไม่ผิดแล้วจะมีอะไรนักหนา 
วันนี้ผมจะเล่าเรื่องในอดีตสมัยพุทธกาลนานนมให้ได้อ่านทำความเข้าใจกันนะครับ


ย้อนกลับไปในสมัยพระเจ้าพิมพิสารปกครองเมือง ท่านก็เป็นพระราชาแห่งแคว้นมคธ ได้ปกครองเมืองอย่างดี และท่านก็ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุโสดาบันเรียบร้อยแล้ว คือ เป็นกษัตริย์ที่ข้างในเป็นพระอริยะบุคคล แต่ยังทรงไม่ผนวชเป็นพระเท่านั้น เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า ต่อมาพระเจ้าพิมพิสารก็ได้รัชทายาท ชื่อว่า อชาตศรัตรู บุตรชายหัวแก้วหัวแหวน ท่านก็เลี้ยงดูอย่างดีเลยล่ะ แต่ก่อนหน้าที่คลอดบุตรชายคนนี้ก็มีเรื่องประหลาดแก่พระราชเทวี คือ พระนางอยากกินเลือดผู้เป็นสามีตลอดเวลา เหมือนคนแพ้ท้องแล้วอยากกินอะไรสักอย่างแต่คราวนี้ดันเป็นเลือดสดๆของพระเจ้าพิมพิสารซึ่งมันทำให้นางอดคิดไม่ได้ว่าบุตรคนนี้จะต้องมาทำร้ายพ่อในอนาคตแน่นอนจึงไม่อยากจะเอาไว้ แต่พระเจ้าพิมพิสารทรงไม่คิดแบบนั้นให้เก็บบุตรคนนี้ไว้เลี้ยงจนเติมใหญ่


ครั้นพอเติบใหญ่ก็อยากจะเป็นกษัตริย์ซะเองเพราะเห็นว่าพระบิดาแก่ชราแล้วควรจะยกบัลลังก์ให้กับตน ก็เลยสบคบกับพระเทวทัตให้ฆ่าพระบิดาเสียไม่งั้นเจ้าจะไม่ได้อะไรประมาณนี้ พระเจ้าอชาตศัตรูก็เลยจับกุมพระบิดาไปขังคุกใต้ดินแล้วปล่อยให้อดตายเอง แต่พระมารดาก็ทรงเข้าไปช่วยให้อาหารนิดหน่อยโดยแอบเอาเข้าไป ซ่อนไว้ในรองเท้าบ้าง พอโดนจับได้ก็เปลี่ยนวิธีการใหม่ไปเรื่อยๆ จนโดนห้ามเข้าไปเยี่ยม คราวนี้ทำไงดี อย่าลืมว่าพระเจ้าพิมพิสารเป็นถึงพระโสดาบันเชียวนะ ท่านก็เดินจงกรม นั่งสมาธิ โดยแทบไม่ต้องกินอาหาร ทุกๆวันพระเจ้าพิมพิสารก็จะเห็นพระพุทธเจ้าเดินออกมาบิณฑบาตร แค่เห็นชายผ้าเหลืองเท่านั้นจิตใจก็ผ่องใสสว่างจ้ามีความสุข


คราวนี้พระเจ้าอชาตศัตรูก็เริ่มสงสัยทำไมพระบิดาถึงยังไม่สวรรคตสักทีก็เลยรู้ว่า พระบิดาเดินจงกรมเพื่อทำสมาธิ ก็เลยสั่งให้ทหารเอามีดมากรีดฝ่าเท้าแล้วเอาเกลือยัดเข้าไปในบาดแผล ทำให้พระเจ้าพิมพิสารเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมากจนไม่อาจทนพิษบาดแผลได้ ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน เดินจงกรมก็ไม่ได้ ที่สำคัญไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าอีกต่างหากทำให้ไม่อาจทนอยู่ในสภาพนี้ได้จึงเสด็จสวรรคตสมความปราถนาของพระเจ้าอชาตศัตรู


คราวนี้ข่าวก็ได้แพร่สะพัดออกไป ชาวบ้านได้ยินถึงวิธีการที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้กระทำต่อพระบิดาต่างก็รู้สึกหดหู่ใจว่าทำไมกษัตริย์ที่ดีๆแบบนี้ถึงต้องมาตายอย่างทรมานเยี่ยงนี้ ก็มีคนไปทูลถามพระพุทธเจ้าว่าเพราะเหตุอันใดหรือ พระเจ้าพิมพิสารถึงโดนกระทำแบบนั้น พระพุทธเจ้าทรงย้อนอดีตให้ฟังว่า นานมาแล้วในชาติก่อนๆมีนายทหารยศสูงทีทหารบริวารรายล้อมมากมายไม่เกรงกลัวศัตรูใดๆ ในสมัยนั้นก็มีพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่งได้มาตรัสรู้ นายทหารนั้นพอรู้ข่าวก็จะรีบไปถวายความเคารพอยากกราบไหว้ก็เลยจะเข้าไปหาพระพุทธเจ้า ก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งได้บอกกล่าวนายทหารท่านนั้นว่า กรุณาถอดรองเท้าของท่านก่อนเถอะ ให้ถอดไว้ตรงนี้ก่อนจะเข้าไปข้างใน นายทหารผู้นั้นมีความถือตนว่าเอ็งเป็นใครวะมาสั่งข้า มีแต่ข้าออกคำสั่ง ยังไงก็ไม่ถอดเดินเข้าไปแบบนั้นเลยแล้วก็เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า การกระทำแบบนี้แล ที่ส่งผลให้เกิดผลกรรมอันทำให้พระเจ้าพิมพิสารต้องโดนเอามีดกรีดฝ่าเท้าแบบนั้น เพราะนายทหารคนนั้นในชาติก่อนก็คือพระเจ้าพิมพิสารในชาตินี้นั่นเอง


ก็มีคนถามต่อไปว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องถอดรองเท้าไว้ตรงไหน สังเกตุง่ายๆครับ เขตที่พระพุทธเจ้าทรงอยู่นั้นจะทำเขตพัทธสีมาไว้เป็นเครื่องหมายจะมีเฉพาะอุโบสถเท่านั้นนะครับ ส่วนศาลาวัด วิหาร กุฎิ แค่ถอดก่อนเข้าไปก็พอ มีแต่อุโบสถเท่านั้นจะมีพัทธสีมา วัดบางแห่งยังสร้างอุโบสถไม่เสร็จก็จะมีลูกนิมิตตั้งไว้ให้เรามาปิดทองใช่มั้ยครับ นั่นแหล่ะครับข้างใต้ฐานพัทธสีมาก็จะมีลูกนิมิตรพวกนี้ฝังอยู่ข้างใต้ เพราะฉะนั้นเราเห็นลูกนิมิตรก็ให้รู้ไว้เลยว่านั่นคือเขตพัทธสีมาแน่นอน แล้วคราวนี้เมื่อเราไปเวียนเทียนก็ต้องสังเกตุเขตพัทธสีมาให้ดีๆนะครับว่าตั้งอยู่ตรงไหน เพราะที่ถูกต้องเราจะต้องเวียนเทียนรอบอุโบสถนะครับไม่ใช่รอบวิหารการเปรียญ บางแห่งพัทธสีมาอยู่ในกำแพงวัดก็มี เราก็ควรถอดรองเท้าตั้งแต่กำแพงวัดเข้าไปเลยทีเดียว


ด้วยเหตุนี้เองเราจึงควรถอดรองเท้าก่อนให้ถึงลูกนิมิตรนะครับ เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่นั่นเองครับ แล้วต่อไปจะได้ไม่เป็นอย่างพระเจ้าพิมพิสาร เพราะถึงแม้จะเป็นกษัตริย์กรรมใดๆที่เคยทำไว้ก็มิอาจหยุดยั้งให้ผลได้นะครับ

แล้วพบกับบทความต่อไป
.
.
.
 "โลกเราใกล้จะแตกแล้วจริงๆหรือเนี่ย.."

No comments:

Post a Comment